โปรแกรมนายช่าง เปลี่ยนเรื่องซ่อมเป็นเรื่องง่าย ด้วยระบบออนไลน์ 100 %

ระบบ Lean คืออะไร? ใช้งานยังไงให้เกิดประโยชน์สูงสุด!

Blog Image
  • Admin
  • 10 ตุลาคม 2567

ระบบ Lean คืออะไร? ใช้งานยังไงให้เกิดประโยชน์สูงสุด!

ระบบ Lean หรือที่เรียกกันในภาษาไทยว่า "ลีน" เป็นแนวคิดและกระบวนการที่ถูกพัฒนามาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดความสูญเปล่า (Waste) ในกระบวนการผลิตขององค์กร แนวคิดนี้มาจากอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ของ Toyota ที่มุ่งเน้นการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีความเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพสูงสุดด้วยต้นทุนต่ำที่สุด

ระบบ Lean มุ่งหมายที่จะปรับปรุงการทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยใช้หลักการที่เรียกว่า "การสร้างคุณค่า" (Value Creation) ซึ่งหมายถึงการให้ความสำคัญกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงๆ และกำจัดกระบวนการที่ไม่จำเป็นที่อาจสร้างความสูญเปล่าในทุกขั้นตอนของการผลิต

ประเภทของความสูญเปล่าในระบบ Lean
ระบบ Lean มุ่งเน้นการกำจัดสิ่งที่เรียกว่า “ความสูญเปล่า” หรือ "Muda" ซึ่งมี 7 ประเภทหลักที่มักพบในองค์กร:
1. การผลิตเกินความจำเป็น (Overproduction)
การผลิตสินค้ามากเกินไปก่อนที่จะมีการสั่งซื้อจากลูกค้า ซึ่งอาจนำไปสู่การกักเก็บสินค้าและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
2. เวลารอคอย (Waiting)
เวลาที่ไม่เกิดประโยชน์ เช่น เวลาที่เครื่องจักรหยุดทำงานหรือเวลาที่พนักงานรอคอยวัสดุ
3. การขนส่ง (Transportation)
การขนส่งหรือเคลื่อนย้ายสินค้าระหว่างขั้นตอนต่างๆ ในกระบวนการผลิต ที่ไม่มีการเพิ่มคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์
4. การดำเนินการที่เกินความจำเป็น (Overprocessing)
การทำงานที่ซับซ้อนเกินไปหรือการใช้เครื่องมือที่ไม่เหมาะสม ซึ่งส่งผลให้เกิดต้นทุนสูงเกินความจำเป็น
5. สินค้าคงคลังเกินความจำเป็น (Inventory)
การกักเก็บวัสดุหรือสินค้าเกินความจำเป็นที่อาจทำให้เกิดการใช้พื้นที่และเงินทุนโดยเปล่าประโยชน์
6. การเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น (Motion)
การเคลื่อนไหวของพนักงานที่ไม่จำเป็นหรือไม่เป็นประโยชน์ต่อการผลิต เช่น การเคลื่อนไหวร่างกายมากเกินไป
7. ของเสียหรือสินค้าที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด (Defects)
การผลิตสินค้าที่มีข้อบกพร่องหรือคุณภาพไม่ตรงตามที่กำหนด ทำให้ต้องมีการแก้ไขหรือทำซ้ำ

หลักการสำคัญของระบบ Lean

- การกำหนดคุณค่า (Value)
ระบบ Lean เริ่มต้นจากการทำความเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร ซึ่งเรียกว่า “คุณค่า” และจะมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าที่ตรงกับความต้องการนั้นๆ เท่านั้น
- การสร้างแผนที่กระบวนการ (Value Stream Mapping)
การวิเคราะห์และมองหากระบวนการต่างๆ ในการผลิตและการส่งมอบสินค้าเพื่อระบุถึงความสูญเปล่าที่สามารถกำจัดได้
- การสร้างกระแส (Flow)
เมื่อระบุถึงกระบวนการที่ไม่ก่อให้เกิดคุณค่าแล้ว ก็มุ่งเน้นการสร้างกระแสการทำงานที่ไม่ติดขัด ลดการหยุดชะงักในกระบวนการผลิต
- การดึง (Pull)
Lean เน้นการผลิตสินค้าตามความต้องการของลูกค้า (Pull System) แทนการผลิตล่วงหน้า (Push System) เพื่อลดการสะสมของสินค้าคงคลัง
- การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Continuous Improvement)
หรือที่เรียกว่า "Kaizen" เป็นการปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ประโยชน์ของการใช้ระบบ Lean
การใช้ระบบ Lean นั้นช่วยให้เกิดประโยชน์สูงสุดในหลายด้าน ดังนี้:
- ลดต้นทุนการผลิต
ระบบ Lean ช่วยลดความสูญเปล่าในกระบวนการผลิต ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง การลดการใช้วัสดุที่เกินความจำเป็นและการลดเวลาที่ไม่เกิดประโยชน์จะส่งผลให้กำไรสูงขึ้น
- เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ระบบ Lean ช่วยให้กระบวนการผลิตดำเนินไปอย่างราบรื่นและเป็นไปตามลำดับขั้นตอนที่เหมาะสม ทำให้การผลิตเร็วขึ้นและลดการเสียเวลาในกระบวนการต่างๆ
- เพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์
การใช้ระบบ Lean ช่วยลดความผิดพลาดและสินค้าที่ไม่ตรงตามข้อกำหนด ซึ่งส่งผลให้สินค้ามีคุณภาพสูงขึ้น ลูกค้าได้รับสินค้าที่ตรงตามความต้องการมากยิ่งขึ้น
- การตอบสนองต่อลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น
ด้วยการใช้ระบบ Pull ลูกค้าจะได้รับสินค้าที่ตรงตามความต้องการในเวลาที่กำหนดได้เร็วขึ้น การลดเวลาการรอคอยของสินค้าในคลังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว
- การปรับปรุงความปลอดภัยในการทำงาน
การลดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นและการออกแบบกระบวนการทำงานที่เรียบง่ายช่วยลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุในที่ทำงาน

การนำ Lean ไปปรับใช้ในองค์กร เพื่อให้การนำระบบ Lean มาใช้ในองค์กรมีประสิทธิภาพสูงสุด 
จะต้องมีการดำเนินการดังนี้:
1. สร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมจากทุกคนในองค์กร
การใช้ระบบ Lean ไม่สามารถทำได้เพียงแค่บางฝ่ายในองค์กร แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่ผู้บริหารจนถึงพนักงานในสายการผลิต
2. วิเคราะห์และทำความเข้าใจถึงกระบวนการที่มีอยู่
ต้องมีการทำแผนที่กระบวนการผลิต (Value Stream Mapping) เพื่อหาจุดที่มีความสูญเปล่าและระบุถึงขั้นตอนที่ไม่จำเป็นในการทำงาน
3. การปรับเปลี่ยนแนวคิดการทำงานจาก Push เป็น Pull
การปรับระบบการผลิตตามแนวคิดของ Lean จากการผลิตล่วงหน้า (Push) มาเป็นการผลิตตามความต้องการ (Pull) เพื่อลดการกักเก็บสินค้าและลดต้นทุนการจัดเก็บ
4. การปรับปรุงกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง
ระบบ Lean เน้นการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการปรับกระบวนการผลิตจะไม่หยุดอยู่แค่ในขั้นตอนเดียว แต่จะมีการปรับเปลี่ยนเพื่อลดความสูญเปล่าและเพิ่มคุณค่าอย่างต่อเนื่อง
5. การใช้เครื่องมือในระบบ Lean
Lean มีเครื่องมือที่หลากหลาย เช่น 5S, Kaizen, Kanban, และการวิเคราะห์กระบวนการด้วย PDCA (Plan-Do-Check-Act) ซึ่งช่วยในการปรับปรุงกระบวนการผลิต

การใช้ Lean ในการผลิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด
การใช้ระบบ Lean จะเกิดประโยชน์สูงสุดเมื่อมีการปรับให้เหมาะสมกับลักษณะขององค์กรนั้นๆ เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องผลิตสินค้าจำนวนมากและต้องการลดต้นทุน การใช้ Lean เพื่อกำจัดความสูญเปล่าในทุกขั้นตอนของการผลิตจะช่วยเพิ่มกำไรอย่างมาก ส่วนในธุรกิจบริการ Lean สามารถนำมาใช้ในการปรับปรุงการให้บริการเพื่อลดเวลาในการรอคอยของลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า

สำหรับองค์กรที่ต้องการใช้ Lean ให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรพิจารณาทั้งระบบงานและวัฒนธรรมองค์กรด้วย เพื่อให้ทุกคนในองค์กรเข้าใจและมีส่วนร่วมในการใช้ Lean อย่างเต็มที่

ระบบ Lean เป็นแนวคิดการปรับปรุงการผลิตที่เน้นการลดความสูญเปล่าและเพิ่มคุณค่าให้กับกระบวนการทำงาน ซึ่งสามารถนำมาใช้ในหลากหลายองค์กรไม่ว่าจะเป็นภาคการผลิตหรือบริการ ด้วยการใช้ Lean จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ และยังส่งผลให้มีการปรับปรุงการทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อความยั่งยืนในอนาคต

การนำ Lean มาใช้งานจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนขององค์กร มีการปรับแนวคิดการทำงานและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด